คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2501

นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายหนึ่งขอให้อีกฝ่ายหนึ่งจ่ายเงินทดรองไปในกิจการอย่างหนึ่ง โดยตกลงว่าจะใช้คืนให้เมื่อเสร็จกิจการนั้นแล้ว หาใช่เป็นการกู้ยืมไม่ แม้เงินที่ทดรองไปจะเกินกว่า 50 บาทก็ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ

การที่ออกเงินช่วยญาติให้ฟ้องร้องคดียังโรงศาลหาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีแต่อย่างใดไม่

 

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจะฟ้องขับไล่นางไพออกจากที่ดินจำเลยแต่มีเงินไม่พอจึงขอร้องให้โจทก์ช่วยออกเงินค่าธรรมเนียม เมื่อเสร็จคดีแล้วจะใช้คืน โจทก์ตกลงตามที่จำเลยซึ่งเป็นลุงขอร้องรวมเป็นเงินที่โจทก์ทดรองไป 5,500 บาท เสร็จคดีแล้วโจทก์ทวงถามจำเลยผัดเรื่อย ๆ ในที่สุดจำเลยตกลงทำหนังสือสัญญาจะขายที่ ๆได้จากนางไพให้แก่โจทก์เป็นการหักหนี้ 5,500 บาทนั้น จำเลยบิดพริ้วไม่โอน โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับ คดีถึงที่สุดชั้นฎีกาให้ยกฟ้องโจทก์ คดีนี้โจทก์จึงขอให้บังคับให้จำเลยคืนเงิน 5,500 บาทให้โจทก์

จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่เคยจ่ายเงินทดรองให้จำเลยสัญญาจะขายที่ดินนั้นจำเลยไม่เคยทำ หากจะฟังว่าโจทก์ช่วยจ่ายเงินทดรองแทนจำเลยในการเป็นความกันก็เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและขัดต่อศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยและตัดฟ้องว่าเป็นฟ้องซ้ำ

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโดยเห็นว่าเงินที่โจทก์ออกแทนไปเป็นเงินยืม เมื่อโจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้จะต้องรับผิดในมูลหนี้นั้นโจทก์จึงฟ้องบังคับคดีไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653และเห็นว่ากรณีนี้เป็นการส่งเสริมให้คนเป็นความกันจึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าที่โจทก์ออกเงินทดรองไปไม่ใช่เป็นการกู้ยืมตามกฎหมาย การช่วยเหลือญาติกันไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเงินที่โจทก์ทดรองไปตามที่กล่าวในฟ้องไม่ใช่เงินยืมและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีนั้นชอบแล้ว พิพากษายืน

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

บทความที่น่าสนใจ

-การด่าตำรวจจราจรว่ารับสินบนจะมีผิดความหรือไม่

-ด่ากันทางโทรศัพท์

-ส่งมอบโฉนดให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันต่อมาไปแจ้งความว่าโฉนดหายมีความผิดต้องโทษจำคุก

-การปลอมเป็นเอกสารจำเป็นต้องมีเอกสารที่แท้จริงหรือไม

-การลงลายมือแทนกันเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

-เมื่อครอบครองปรปักษ์ที่ดินแล้ว ต่อมาเกิดที่งอกใครเป็นเจ้าของที่งอกนั้น

-ซื้อที่ดินในหมู่บ้านจัดสรร แล้วไปซื้อที่ดินข้างนอกที่ติดกับหมู่บ้าน
เพื่อเชื่อมที่ดินดังกล่าวเข้ากับที่ดินในหมู่บ้าน

-ขายฝากที่ดินต่อมาผู้ขายได้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน แต่ไม่ได้ไถ่ภายในกำหนดบ้านเป็นของใคร

-ไม่ได้เข้าร่วมในการแบ่งกรรมสิทธิ์รวม

-ปลูกต้นไม้ในทางสาธารณะสามารถฟ้องให้รื้อถอนออกไปได้

-การทำสัญญายอมในศาลโดยการครอบครองในป่าสงวน

-เจ้าของรวมนำโฉนดที่ดินไปประหนี้เงินกู้ผลเป็นอย่างไร

-การต่อเติมภายหลังปลูกสร้างโรงเรือนรุกล้ำ

-คนต่างด้าวก็สามารถครอบครองปรปักษ์ได้

-ผู้รับการให้ด่าว่าผู้ให้ ผู้ให้สามารถเพิกถอนการให้ได้

-ยกที่ดินให้แล้ว แต่มีสิทธิเก็บกินโดยไม่ได้จดทะเบียนผลเป็นอย่างไร

-ด่าว่า จัญไร ถอนการให้ได้

-ฟ้องเรียกค่าขาดกำไร เป็นค่าเสียหายพฤติการณ์พิเศษ

-หนังสือทวงถามส่งไปที่บ้านตามภูมิลำเนาอ้างว่าไม่ได้รับได้หรือไม่

-การยินยอมของเด็กที่ให้ล่วงละเมิดทางเพศ ยังคงเป็นความผิดฐานละเมิด

-ดูหมิ่นเรียกค่าเสียหายได้เท่าไหร่

-ตั้งใจไปกู้แต่เจ้าหนี้ให้ทำสัญญาขายฝากผลเป็นอย่างไร

-คำมั่นจะให้เช่าเป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว

-การโอนสิทธิการเช่าทำได้หรือไม่